ข่าว
แอมโมเนีย คืออะไร? อันตรายจริงหรือ?
12.11.2021
แอมโมเนีย (Ammonia) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย ธาตุไนโตรเจน (N) 1 อะตอม และไฮโดรเจน (H) 3 อะตอม มีสูตรทางเคมี คือ NH3 แอมโมเนีย ถือเป็นก๊าซ เป็นพิษ และกัดกร่อน วัสดุบางชนิด มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ซึ่งเราสามารถสัมผัส กลิ่นแอมโมเนียได้หากมีความเข้มข้นมากกว่า 5 ppm ถ้าหายใจเข้าไปเพียงเล็กน้อย จะทำให้น้ำตาไหล ออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจอย่างแรง ทำให้เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวได้ง่าย
คุณสมบัติทางเคมี และปฏิกิริยาเคมี
- สารแอมโมเนีย มีฤทธิ์กัดกร่อน และเป็นด่างสูง ความเข้มข้น 1.0 N จะมี pH 11.6 และสารละลายแอมโมเนียความเข้มข้น 0.1 N จะมี pH 11.1
- เกิดการสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน พร้อมเกิดละอองฟูมกัดกร่อน (Corrosive fume of ammonia) และก๊าซพิษออกไซด์ของไนโตรเจน
-สามารถติดไฟได้เมื่อทำปฏิกิริยากับกรดไนตริก และระเบิดได้ในที่อับอากาศเมื่อมีการติดไฟ
-สามารถทำปฏิกิริยากับยาง พลาสติก และสารเคลือบผิว ทำให้เกิดบูดบวม และหมดสภาพสารได้
-สามารถทำปฏิกิริยากัดกร่อนโลหะตะกั่ว ดีบุก ทองแดง อลูมิเนียม หรือโลหะผสมทองแดง เช่น ทองเหลือง สังกะสี หรือเหล็ก ได้
-สามารถทำปฏิกิริยากับสารออกซิไดซ์ สารประกอบที่มีธาตุหมู่ฮาโลเจน เช่น เงิน ปรอท โบรอน ฟอสฟอรัส โปตัสเซียม แคลเซียม ทำให้เกิดการลุกไหม้ และระเบิดรุนแรง
ประโยชน์ของสารแอมโมเนีย
-นิยมใช้สำหรับการทำความเย็น ซึ่งมีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับสารอื่น ๆ
-นำมาใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมย้อมผ้า ยา เส้นใยสังเคราะห์ พลาสติก ปุ๋ย วัตถุระเบิด อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง โรงกลั่นน้ำมัน และไอศกรีม
-นิยมในวงการแพทย์สำหรับสูดดม ช่วยอาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียนศรีษะ
พิษของ สารแอมโมเนีย
พิษต่อสิ่งแวดล้อม หากมีการปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ จะทำให้ค่าความเป็น กรด-ด่าง (pH) ของน้ำสูงขึ้น ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ (DO) ลดลง ห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง หรือหากมีการปนเปื้อนในอากาศ จะเปลี่ยนเป็นสารประกอบ กลุ่มไนโตรเจน NOx และละอองไอแอมโมเนีย มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะได้
พิษต่อ สัตว์ และสัตว์น้ำ แอมโมเนียที่พบในแหล่งน้ำจะเกิดจากการย่อยสลายอินทรีย์ไนโตรเจน ปุ๋ย และเศษอาหาร จนกลายเป็นแอมโมเนียอิสระ (NH3) และเมื่อสัตว์น้ำสัมผัสกับแอมโมเนียอิสระ 1 ถึง 2 มิลลิกรัม/ลิตร นาน 1 ชั่วโมง มักทำให้สัตว์น้ำตายอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากระดับแอมโมเนียในกระแสเลือด และเนื้อเยื่อสูงขึ้น ทำให้ค่าความเป็น กรด-ด่าง ในเลือดจึงสูงขึ้น ส่งผลต่อปฏิกิริยาชีวเคมีทำงานผิดปกติ ลดความสามารถในการลำเลียงออกซิเจน และทำให้เสียชีวิตในที่สุด
พิษต่อสุขภาพ แอมโมเนียมีฤทธิ์กัดกร่อน และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังที่สัมผัส การสัมผัสกับแอมโมเนียเข้มข้นทำให้เกิดเวียนศีรษะ ตาลาย และเกิดอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง รวมถึงการสูดดมเข้าระบบทางเดินหายใจจะทำให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อ มีอาการแสบร้อนหากสูดดมเพียงเล็กน้อยจะทำให้น้ำตาไหล แต่หากสูดดมมากจะออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ เสี่ยงต่อหัวใจวายได้ง่าย
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าแอมโมเนียมีทั้งประโยชน์และโทษ ผู้ปฏิบัติติงานควรหมั่นตรวจสอบปริมาณแอมโมเนียในสถานที่ทำงานอยู่สม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติติงาน โรงงาน และสิ่งแวดล้อม โดยผู้ปฏิบัติติงานสามารถตรวจวัดปริมาณแอมโมเนียอย่างง่ายและรวดเร็ว โดยการใช้ อุปกรณ์ Gastec Gas Sampling pump รวมกับ Ammonia Detector Tube ที่มีช่วงความเข้มข้นที่หลากหลายตั้งแต่ 0.5 ppm – 32% ppm
ข้อมูลอ้างอิง : maromothai.com/article/มารู้จัก-แอมโมเนีย-คือ/